พอร์ตแตก คืออะไร

คำว่า “พอร์ตแตก” (Portfolio Diversification) คือ การการลงทุนในหลายสินทรัพย์ทางการเงินหรือหลายประเภทของสินทรัพย์ทางการเงินเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น ในการพอร์ตแตก เทรดเดอร์ไม่ใส่ไข่ใส่ตะกร้าเดียว นั่นหมายความว่าเทรดเดอร์ไม่พยายามวางเดิมพันในสินทรัพย์เดียว หรือในตลาดเดียว แทนนี้ เทรดเดอร์กระจายการลงทุนของเทรดเดอร์ในหลายสินทรัพย์ทางการเงินหรือประเภทของสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ ที่มีลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกัน
ความสำคัญของการพอร์ตแตกมีดังนี้
- ลดความเสี่ยง: การกระจายการลงทุนช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในสินทรัพย์ที่เดียว ถ้าสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งขาดเทรดเดอร์สามารถลดผลกระทบที่สำคัญได้
- เพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทน: การลงทุนในหลายสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงแตกต่างกันช่วยเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนของสินทรัพย์แต่ละประเภทอาจมีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน
- การจัดการความเสี่ยง: การพอร์ตแตกช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดการความเสี่ยงได้ง่ายขึ้น เทรดเดอร์สามารถปรับการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลกระทบน้อยในช่วงเวลาที่ตลาดเปลี่ยนแปลง
- การกระจายความเสี่ยงตามเป้าหมายการลงทุน: การลงทุนตามเป้าหมายการลงทุนแต่ละคนมีความเสี่ยงและความสามารถทางการเงินที่แตกต่างกัน การพอร์ตแตกช่วยให้เทรดเดอร์สามารถปรับลงทุนให้เหมาะกับเป้าหมายและความสามารถของเทรดเดอร์
พอร์ตแตกล้างพอร์ต forex bitcoin binance
การเปิดพอร์ตและการล้างพอร์ตในตลาดการเงินดิจิทัลอาจมีการดำเนินการที่แตกต่างกันไปตามแต่ละแพลตฟอร์ม ดังนั้นฉันจะให้ข้อมูลที่ทั่วไปเกี่ยวกับวิธีการทำนี้ในพอร์ตคำศัพท์ทั่วไป เพื่อความแม่นยำมากขึ้น เทรดเดอร์ควรตรวจสอบกับแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์ใช้สำหรับขั้นตอนที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์อาจใช้ได้รวมถึง Forex, Bitcoin, และ Binance ดังนี้
เปิดพอร์ต (Portfolio Opening)
- ในบัญชีของเทรดเดอร์บนแต่ละแพลตฟอร์ม (เช่น Forex broker, Binance, หรือแพลตฟอร์มการซื้อขาย Bitcoin), เทรดเดอร์จะต้องสร้างพอร์ตหรือบัญชี
- การเปิดพอร์ตอาจเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการเงินที่เทรดเดอร์ต้องให้
ล้างพอร์ต (Portfolio Management)
- การล้างพอร์ตหมายความว่าเทรดเดอร์จะสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัลหรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ ในพอร์ตของเทรดเดอร์
- ในกรณีของ Forex, เทรดเดอร์สามารถเปิดคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายสกุลเงินต่างประเทศตามทิศทางที่เทรดเดอร์คาดหวัง
- ในกรณีของ Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ, เทรดเดอร์สามารถซื้อหรือขายผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน (เช่น Binance)
- การล้างพอร์ตอาจมีกำหนดเวลาและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไปตามแต่ละแพลตฟอร์ม
การจัดการพอร์ต (Portfolio Management)
- หลังจากเปิดและล้างพอร์ตแล้ว, เทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญกับการจัดการพอร์ต
- สิ่งนี้รวมถึงการตรวจสอบสินทรัพย์ทางการเงินของเทรดเดอร์เพื่อดูสภาพการทำงานและปรับแผนการลงทุนตามต้องการ
- ควรตรวจสอบการเพิ่มหรือลดความลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่ตลาดแสดงให้เห็น
การติดตามผล (Performance Tracking)
- เทรดเดอร์ควรติดตามผลการลงทุนของเทรดเดอร์อย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ข้อมูลและกราฟในแพลตฟอร์มของเทรดเดอร์
- การติดตามผลการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เทรดเดอร์สามารถทำการปรับปรุงแผนการลงทุนของเทรดเดอร์ตามผลการทำงานของพอร์ต
พอร์ตหุ้นแตก เป็นอย่างไร

พอร์ตหุ้นแตก (Stock Portfolio Diversification) หมายถึง การการลงทุนในหลายหุ้นหรือหลายบริษัทที่มีหุ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น การพอร์ตหุ้นแตกมีหลายวัตถุประสงค์, แต่หลักๆ คือการลดความเสี่ยงและการสร้างพอร์ตที่มีสมดุล
นี่คือขั้นตอนที่เทรดเดอร์สามารถทำเพื่อสร้างพอร์ตหุ้นแตก
- วางแผนเป้าหมายการลงทุน: ก่อนที่เทรดเดอร์จะเริ่มต้นการลงทุนในหุ้นหรือสร้างพอร์ต, เทรดเดอร์ควรระบุเป้าหมายการลงทุนของเทรดเดอร์ ว่าเทรดเดอร์ต้องการรายได้ประจำ, การเติบโตในทุน, หรือความเสี่ยงที่เทรดเดอร์พร้อมรับได้เท่าใด
- ความรู้และการวิเคราะห์: การทราบข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและหุ้นที่เทรดเดอร์สนใจเป็นสิ่งสำคัญ เทรดเดอร์ควรศึกษาเกี่ยวกับประวัติและประสิทธิภาพทางการเงินของบริษัทที่เทรดเดอร์สนใจ
- กำหนดสัดส่วนการลงทุน: หลังจากที่เทรดเดอร์มีความเข้าใจเกี่ยวกับหุ้นแต่ละตัว, เทรดเดอร์ควรกำหนดสัดส่วนการลงทุนในแต่ละหุ้น ไม่ควรวางทุนในหุ้นเพียงแค่หนึ่งแห่งเท่านั้น แต่ควรกระจายการลงทุนของเทรดเดอร์ในหลายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง
- การกระจายตามกลุ่มอุตสาหกรรม: เทรดเดอร์สามารถคิดการลงทุนในหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน เช่น การลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยี, บริษัทเกษตร, หรือบริษัทอื่นๆ ที่มีลักษณะความเสี่ยงแตกต่างกัน
- การกระจายตามประเภทของหลักทรัพย์: ไม่ใช้เฉพาะการลงทุนในหุ้นเท่านั้น เทรดเดอร์สามารถคำนึงถึงการลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆ เช่น หลักทรัพย์แห่งหนี้, ทรัพย์สินไม่แสดงบัญชี, หรือเงินสดเพื่อลดความเสี่ยง
- การตรวจสอบและปรับพอร์ต: เทรดเดอร์ควรตรวจสอบพอร์ตของเทรดเดอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ามันยังสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนของเทรดเดอร์ เทรดเดอร์อาจต้องปรับสัดส่วนการลงทุนเมื่อเป้าหมายหรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลง
พอร์ตแตก พอร์ตหุ้นแตก เป็นอย่างไร ต่างกันอย่างไร
“พอร์ตแตก” และ “พอร์ตหุ้นแตก” เป็นคำในคำศัพท์ทางการเงินที่มีความหมายคล้ายคลึงกันและใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
แต่มีความแตกต่างในบางด้านดังนี้
พอร์ตแตก (Portfolio Diversification)
ความหมาย
พอร์ตแตกหมายถึง การการลงทุนในหลายสินทรัพย์ทางการเงินหรือหลายประเภทของสินทรัพย์ทางการเงิน เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น การพอร์ตแตกสามารถเป็นหุ้น, หนี้, สินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัล, หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ ก็ได้
วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์หลักของพอร์ตแตกคือการลดความเสี่ยงในการลงทุน โดยการกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน และความคาดหวังคือจะลดความผันผวนของผลตอบแทนในพอร์ตของเทรดเดอร์
พอร์ตหุ้นแตก (Stock Portfolio Diversification)
ความหมาย
พอร์ตหุ้นแตกหมายถึงการการลงทุนในหลายหุ้นหรือหลายบริษัทที่มีหุ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นเดียว และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น การพอร์ตหุ้นแตกมักเกี่ยวข้องกับการลงทุนในตลาดหุ้น
วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์หลักของพอร์ตหุ้นแตกคือการลดความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้น โดยการกระจายการลงทุนในหลายหุ้นที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน และความคาดหวังคือจะลดความผันผวนของผลตอบแทนในพอร์ตของหุ้น
ข้อดีข้อเสียของพอร์ตแตก
ข้อดีของพอร์ตแตก (Portfolio Diversification)
- ลดความเสี่ยง: การแบ่งพอร์ตช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน โดยการกระจายเงินลงในหลายสินทรัพย์ทางการเงินหรือหลายส่วนของตลาดที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน การลดความเสี่ยงนี้ช่วยลดความผันผวนในผลตอบแทนที่เป็นไปได้
- เพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทน: การแบ่งพอร์ตช่วยเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น เนื่องจากการลงทุนในหลายสินทรัพย์ทางการเงินที่มีโอกาสการเคลื่อนไหวแตกต่างกันช่วยในการดูแลความสมดุลของพอร์ต
- การคุ้มครองต่อความสูญเสีย: ถ้าสินทรัพย์หนึ่งขาดเทรดเดอร์ไม่สูญเสียทั้งหมด แต่เมื่อเทรดเดอร์แบ่งพอร์ตแล้วเทรดเดอร์มีโอกาสที่น้อยกว่าจะสูญเสียทั้งหมดในการลงทุน
- การจัดการความเสี่ยง: การแบ่งพอร์ตช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีสินทรัพย์ที่มีผลกระทบลบเทรดเดอร์สามารถปรับแผนการลงทุนได้ง่ายขึ้น
ข้อเสียของพอร์ตแตก (Portfolio Diversification)
- การรับผลตอบแทนที่ต่ำกว่า: การแบ่งพอร์ตอาจทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำกว่าถ้าเทรดเดอร์ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูง การแบ่งพอร์ตอาจทำให้เทรดเดอร์สูญเสียโอกาสในการทำกำไรในบางสินทรัพย์
- ความซับซ้อน: การแบ่งพอร์ตอาจทำให้การจัดการและการติดตามเปลี่ยนแปลงในพอร์ตของเทรดเดอร์เป็นเรื่องซับซ้อน เพราะเทรดเดอร์ต้องดูแลหลายสินทรัพย์ในเวลาเดียว
- ค่าธรรมเนียม: การแบ่งพอร์ตอาจเพิ่มค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายและการจัดการพอร์ต เนื่องจากเทรดเดอร์จะต้องทำธุรกรรมในหลายสินทรัพย์
- ผลลัพธ์ผลตอบแทนต่ำกว่าที่คาดหวัง: ในบางกรณีการแบ่งพอร์ตอาจทำให้เทรดเดอร์ไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีเท่าที่คาดหวัง ถ้าสินทรัพย์ที่เทรดเดอร์ไม่ลงทุนมีผลตอบแทนที่ดีกว่าที่เทรดเดอร์คาดหวัง
ข้อดีข้อเสียของพอร์ตหุ้นแตก
ข้อดีของพอร์ตหุ้นแตก (Stock Portfolio Diversification)
- ลดความเสี่ยงของการลงทุน: การลงทุนในหลายหุ้นหรือหลายบริษัทช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นเดียว โดยเทรดเดอร์ไม่ขึ้นอยู่กับสมรรถนะของบริษัทหรือโอกาสการเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียว
- เพิ่มโอกาสในการทำกำไร: การลงทุนในหลายหุ้นที่มีโอกาสการเคลื่อนไหวแตกต่างกันช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร โดยเทรดเดอร์มีโอกาสในการลงทุนในหุ้นที่มีผลตอบแทนที่ดีในส่วนของพอร์ตของเทรดเดอร์
- การกระจายความเสี่ยง: การแบ่งพอร์ตหุ้นช่วยให้เทรดเดอร์กระจายความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งมีผลทำให้เทรดเดอร์ไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียใหญ่จากการลงทุนในหุ้นเดียว
- การลดผลกระทบ: ถ้ามีบริษัทหนึ่งประสบปัญหาหรือข่าวร้ายเทรดเดอร์จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หรือถ้ามีหุ้นหนึ่งที่ลดมูลค่าเทรดเดอร์ก็ยังมีหุ้นอื่นๆ ที่อาจช่วยให้มูลค่าของพอร์ตรวดเร็ว
ข้อเสียของพอร์ตหุ้นแตก (Stock Portfolio Diversification)
- ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า: การแบ่งพอร์ตหุ้นอาจทำให้ผลตอบแทนที่เฉลี่ยต่ำกว่าถ้าเทรดเดอร์ลงทุนในหุ้นบางตัวที่มีผลตอบแทนสูง การแบ่งพอร์ตอาจสูญเสียโอกาสในการทำกำไรในบางหุ้น
- การจัดการซับซ้อน: การลงทุนในหลายบริษัทหรือหลายหุ้นที่ต่างกันอาจทำให้การจัดการและการติดตามพอร์ตมีความซับซ้อน เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องดูแลหลายหุ้นในเวลาเดียว
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย: การทำการแบ่งพอร์ตหุ้นอาจเพิ่มค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อขายและการจัดการพอร์ต เนื่องจากเทรดเดอร์จะต้องทำธุรกรรมในหลายบริษัทหรือหลายหุ้น
- ผลลัพธ์ผลตอบแทนต่ำกว่าที่คาดหวัง: ในบางกรณีการแบ่งพอร์ตอาจทำให้เทรดเดอร์ไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีเท่าที่คาดหวัง ถ้าบริษัทหรือหุ้นที่เทรดเดอร์ไม่ลงทุนมีผลตอบแทนที่ดีกว่าที่เทรดเดอร์คาดหวัง
สรุป ความแตกต่างของ พอร์ตแตก กับ พอร์ตหุ้นแตก
พอร์ตแตก (Portfolio Diversification)
- การแบ่งพอร์ตที่ประกอบด้วยหลายประเภทของสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน เช่น หุ้น, หนี้, สินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัล, และอื่นๆ
- วัตถุประสงค์หลักคือการลดความเสี่ยงในการลงทุนโดยกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน
- มุมมองทางการลงทุนมีลักษณะที่หลากหลายและรวมสินทรัพย์ทางการเงินที่แตกต่างกันในพอร์ตเดียว
พอร์ตหุ้นแตก (Stock Portfolio Diversification)
- การแบ่งพอร์ตที่ประกอบด้วยหลายหุ้นหรือหลายบริษัทในตลาดหุ้น โดยเน้นการลงทุนในหุ้น
- วัตถุประสงค์หลักคือการลดความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นเดียว โดยกระจายการลงทุนในหลายหุ้นที่มีความเสี่ยงแตกต่างกันในตลาดหุ้น
- มุมมองทางการลงทุนมุ่งเน้นเฉพาะการลงทุนในหุ้นและบริษัทในตลาดหุ้น

Forexpug นักเขียนมือปืนรับจ้างเขียนบทความให้เว็บส่วนใหญ่ในโลก Forex จนน้องปั๊กสนใจ Forex ขึ้นมาจริง ๆ และอยากจะศึกษาไปด้วย เขียนบทความบนเว็บของตัวเองไปด้วยค่ะ และนี่คือเว็บของหนูหล่ะ คอยดู๊!!! หนูจะวิ่งให้ไกลเล๊ยย